/ # Book / 7 min read

รวมหนังสือจากสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 44 ที่ตนเองซื้อมา

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน งานหนังสือครั้งที่ 44 ก็ได้ดำเนินมาถึงวันที่ 7 เมษายนแล้ว เหลืออีก 3 วันเท่านั้นสำหรับมหกรรมลดแลกแจกแถมหนังสือครั้งยิ่งใหญ่นี้ ซึ่งผมเองก็ได้ผันตัวไปเป็นพ่อค้ารับฝากซื้อหนังสือในงาน หาเงินซื้อหนังสือให้ตัวเองอ่านเสียหน่อย จะได้ไม่เข้าเนื้อเข้าตัวมากนัก

กิจการก็ดำเนินไปได้ด้วยดี ขอขอบคุณผู้ที่ไว้วางใจกระผมในการฝากซื้อหนังสือ (นี่มาเขียนกิตติกรรมประกาศใช่ไหม?) ถือว่าได้กำไรมาพองาม แต่ยังไงเสียเงินเยอะอยู่ดีกับงานนี้ ฮาๆ

หนังสือดูไม่เยอะแต่ราคาแต่ละเล่มก็สูงพอควร คิดว่าบาดเจ็บไปก็หลายพันอยู่ครับ

Murakami's books

ผมรองานนี้เพื่อซื้อหนังสือมุราคามิเลย เพราะราคาเล่มนึงปกติแพงพอควร เล่มเล็กๆ(เล็กกว่า LN อีก 200 บาท) เลยกะจะมาซื้อโดยเฉพาะเลยในงานหนังสือ เลยโดนไปเจ็บพอควร >___>

เล่มแรกที่อยากจะนำเสนอคือ Pinball 1973

เรื่องนี้เป็นเล่มที่สองจากซีรี่ย์ The Trilogy of the Rat ตัวละครในเรื่องมักจะไม่มีชื่อ(อย่างมากก็ชื่อเล่น) ดำเนินเรื่องโดยตัวละคนที่แทนตนเองว่า "ผม (boku)" ตลอดทั้งเรื่อง จริงๆยังไม่ได้อ่าน แต่จากที่ลอง skim ดู จะออกแนวนามธรรม ให้รสชาติที่ต่างจาก สดับลมขับขาน และ แกะรอย แกะดาว ในซีรี่ย์เดียวกัน

เล่มต่อไปของมุราคามิที่ซื้อมาคือ Men without Women

รวมเรื่องสั้นของชายที่หญิงของตนหายตัวไปทั้งหมด 7 เรื่อง เล่มนี้เป็นรวมเรื่องสั้นล่าสุดของมุราคามิ ส่วนตัวก็ยังไม่ได้เริ่มอ่านเช่นกันจึงบอกอะไรไม่ได้มาก

ยังมีต่ออีกหลายเล่มเลยทีเดียว เล่มต่อไปคือ South of the Border, West of the Sun

เล่มนี้แปลโดยคุณโตมร สุขปรีชา โดยปกติส่วนมากถ้าเป็นเรื่องยาวของมุราคามิคุณนพดล เวชสวัสดิ์จะแปล ทำให้สำนวนค่อนข้างต่างกันและทำให้รู้สึกเหมือนจะอ่านง่าย เนื้อเรื่องเรื่องนี้มิได้ซับซ้อนนัก เหมาะสำหรับจะทำความเข้าใจตรรกะมุราคามิ จึงอยากจะยกให้เป็นหนังสือเล่มแรก ถ้าอยากจะเข้าโลกของมุราคามิ อีกเล่มที่แนะนำคือ Norwegian Wood แต่ว่าเล่มนั้นเนื้อหาหนักหน่วงและยาวกว่า

และหนังสือของมุราคามิที่ผมซื้อมาก็ยังไม่หมด เล่มต่อไป A Wild Sheep Chase

เล่มนี้ชื่อไทยคือ แกะรอย แกะดาว เนื้อเรื่องก็ตามชื่อ ตัวเอกก็ไปตามหา แกะดาว นั้นเอง เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มในซีรี่ย์ Trilogy of Rat แต่เล่มนี้จะค่อนข้างหนา เนื้อเรื่องน่าติดตาม ออกแนวสืบสวน แต่ลักษณะของการดำเนินเรื่องและการไขปัญหาจะต่างกับเล่มอื่นๆ จะเป็นอย่างไรก็ลองไปอ่านกัน ส่วนตัวเพิ่งอ่านจบวันที่เขียนบล็อคนี่แหละ

ท้ายที่สุดของมุราคามิที่ข้าพเจ้าซื้อมา Kafka on the Shore

เล่มนี้เคยยืนอ่านที่ร้านหนังสืออยู่ พบความเป็นสัจนิยมมหัศจรรย์ และ post-modern (จริงๆเล่มอื่นๆของมุราคามิมันก็โพสต์โมเดิร์นนะ) แต่ตัวเอกแตกต่างจากเล่มอื่นๆ เพราะว่าตัวเอกในเรื่องนี้อายุ 15 เท่านั้น เรื่องนี้ผมก็ยังไม่ได้อ่านเหมือนกัน เล่มค่อนข้างหนา คงจะอีกนานกว่าจะอ่านจบ

หมดของมุราคามิเพียงเท่านี้. . .

Non Fiction Books / Academic Books

ยอมรับว่างานนี้แอบซื้อเกินจากลิสต์ไว้ ฮาๆ หนังสือพวกนี้ซื้อในงานหนังสือก็ดี เพราะมันถูกกว่าซื้อนอกงานเยอะอยู่ ก็เลยตั้งใจซื้อหลายเล่มเลย

เล่มแรกที่อยากจะนำเสนอคือ Corruption: A Very Short Introduction

หนังสือเล่มเล็กๆ (แต่ราคาไม่เล็กนะ) เขียนในลักษณะกึ่งวิชาการ เข้าใจง่าย ไม่ได้ใช้ศัพท์เทคนิคเยอะ ทำให้เข้าใจคอร์รัปชั่น ตั้งแต่อะไรคือการคอร์รัปชั่น ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมและประเทศ นำเสนอแง่มุมรอบด้าน รวมทั้งบอกถึงความพยายามต่อต้านคอร์รัปชั่นจากองค์กรต่างๆ เป็นหนังสือที่ควรอ่านอย่างยิ่ง เพราะทำให้เข้าใจปัญหาการคอร์รัปชั่นอย่างแท้จริง

เล่มต่อมานี้เป็นเล่มที่ฮอตมากจนต้องพิมพ์ครั้งที่สองระหว่างงานหนังสือ ด้วยตัวหนังสือที่ไม่รู้จะรอดจาก คสช. หรือเปล่า เล่มนี้คือ การทูตทักษิณ

ไม่รู้ว่ารอดได้ไงกับหนังสือเล่มนี้ เขียนโดยนักวิชาการที่รักของลุงตู่ "อ.ปวิน ชัชวาลพงษ์พันธ์" โดยแปลมาจากหนังสือ Reinventing Thailand: Thaksin and His Foreign Policy วิจารณ์การทูตเชิงรุกทักษิณอย่างตรงไปตรงมา ตามสไตล์นักวิชาการ พร้อมข้อมูลซัพพอร์ตที่รัดกุม อ่านแล้วไม่โดนล้างสมองเป็นเสื้อแดงแน่นอน ส่วนตัวอ่านไป 1 บท แต่ลอง skim ดูทั้งเล่มละ

เล่มต่อไปนี้ ครั้งหนึ่งเคยถูกแบนในอดีต ในตอนนี้กลับมาอีกครั้ง พร้อมการแปลของ อ.วิจักขณ์ พานิช Pedagogy of the Oppressed

เล่มนี้เป็นผลงานที่รู้จักดีของ เปาโล แฟรร์ ได้ให้แง่มุมไว้หลายประการ การศึกษาของผู้ที่ถูกดขี่ต้องทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ทำลายความเชื่องมงาย เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และเกิดการแก้ปัญหา โดยเล่มนี้ผมยังไม่ได้เริ่มเปิดอ่าน ณ วันที่เขียนบทความนี้ แต่มั่นใจว่าต้องเป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งอย่างแน่นอน

เล่มนี้ตอนแรกไม่ได้อยู่ในลิสต์(แต่ก็ค่อนข้างสนใจ) แต่เดินไปแล้วเห็น พร้อมด้วยชื่อหน้าสนใจ สีของปกที่สะดุดตา เลยทำให้หยิบมาอ่านดู ปรากฏว่าอ่านแล้วต้องซื้อมาอ่านต่อ เล่มที่กล่าวถึงคือ ในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

ด้วยชื่อที่ดึงดูด ทำให้ผมลองเปิดอ่านดูนิดหน่อย พบว่าเป็นการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ให้ข้อมูลที่ไม่ค่อยมีใครสนใจนัก(ไม่ใช่กระแสหลัก) รัฐไวมาร์เนี่ยก็แค่เคยได้ยินชื่อเฉยๆ ทำให้รู้สึกสนใจขึ้นไปอีก โดยเล่มนี้เล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้น จุดที่รุ่งเรืองจนไปถึงการล้มสลาย คำนิยมของ อ.วรเจตน์บอกว่าอ่านสนุก เราก็เชื่อ สุดท้ายก็ปลงใจซื้อมาซะแล้ว ฮาๆ

เล่มต่อไป เป็นหนังสือที่น่าสนใจมากๆ แปลโดยคนดังอย่าง อ.เจษฎา The Selfish Gene

เล่มนี้ตอนแรกไม่อยู่ในลิสต์เหมือนกัน เพราะไม่ค่อยอ่านงานวิทยาศาสตร์อยู่ละ แต่พอดีเห็นเขาบอกว่าดีนักดีหนาก็เลยเอามาพลิกหน้าพลิกหลังดู เห็นหัวข้อน่าสนใจ เลยเปิดข้างในอ่าน เท่านั้นแหละ ติดใจ ซื้อมาเลย หนังสือเล่มนี้ว่าด้วย "ความเห็นแก่ตัว" ที่ฝังรากลึกมาถึงระดับยีนของพวกเรา!

สุดท้ายของหนังสือที่มีอยู่ตอนนี้ The Great Transformation: The Political and Economic Origin at Our Time

เล่มนี้พอเห็นว่าจะออกก็จะรีบซื้อเลย ในงานหนังสือลดด้วย (ข้างนอกมันแพง ฮาๆ) บอกได้เลยว่า ถ้าอยากเข้าใจกำเนิดเศรษฐกิจ การเมืองของโลกสมัยใหม่ เล่มนี้เป็นอีกเล่มที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Light Novel

ตอนนี้ได้มาแค่เล่มเดียวเท่านั้น คือ Mondaiji-tachi ga Isekai Kara Kuru Sou Desu yo 9

Haven't Bought Yet

  • ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย ของ อ.คริส เบเกอร์ กับ อ.ผาสุก พงษ์ไพจิตร พอดีเจอยีนเห็นแก่ตัวกับไวมาร์เลยยังไม่ซื้อ เดี๋ยวมีเงินจะมีซื้อเก็บไว้เป็น reference นะ ฮาๆ
  • ผู้กล้าโล่ผงาด เล่ม 4 ไว้ไปซื้อ Toonzone เอาละกัน เล่มอื่นมันไม่ลดข้างนอก T_T
  • LN No Game No Life 7 ตอนจะไปซื้อไม่มี!!!!

สุดท้ายนี้ก็อยากบอกว่า เงินที่หามาได้หายไปหมดแล้ว ToT

รวมหนังสือจากสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 44 ที่ตนเองซื้อมา
Share this