/ # Review / 5 min read

ความรู้สึกหลังใช้ Samsung Galaxy S7 Edge มา 3 อาทิตย์

วันนี้ (17 กันยายน 2559) และในอีกสามวันจะมีการสอบปลายภาค มิตรสหายต่างอ่านหนังสือกันอย่างขยันขันแข็ง เว้นแต่ผมที่ไม่อ่าน ท่องเน็ต และเล่นเกมไปวัน ๆ เท่านั้น พอดีเซ็ง ๆ จากการเล่น DOTA2 แพ้ติดต่อกัน 3 ตารวด เลยมาเขียนอะไรเล่น ๆ หลังจากปล่อยร้างมาซักพัก

คงต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่รีวิวเครื่อง แค่เป็นการบอกความรู้สึกเท่านั้น

ทำไมถึงเลือกเครื่องนี้ ?

แม้ว่าจะมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยคือว่า เหมาะสมที่สุดในตัวเลือกที่มีอยู่ พูดถึงสถานการณ์ในวันที่ซื้อก่อน วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ เดินทางไป Paradise Park ในเวลา 11 โมงเช้า ผมได้ลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมาพอสมควร และมีตัวเลือกอยู่ภายในใจเพียงหนึ่งคือ ย้ายค่ายจากค่ายสีเขียวเป็นสีแดง ซื้อ iPhone SE 64 GB แบบติดสัญญา ได้ลดค่าเครื่องและลดจากการย้ายค่ายอีก ทุกอย่างดูจะเป็นไปได้ด้วยดีถึงใจจริงจะขี้เกียจย้ายจาก Android ไป iOS

แต่ทว่าเมื่อไปถึงศูนย์ของค่ายเขียว แบบที่เป็นพิเศษ (สำหรับลูกค้าแบบพิเศษ ขึ้นต้นด้วย Se____) ได้พบกับการจัดโปรโมชั่นครบรอบ ... ปีของค่ายนี้ และจะต้องเฉพาะผู้ที่เป็นลูกค้าแบบพิเศษด้วย แถมลดถึง 50% จึงลองเดินดู จนพบกับ Samsung Galaxy S7 Edge นี่แหละ ลด 50% ตอนนั้นเปลี่ยนการตัดสินใจเลยครับ ถึงตัวเองจะเกลียด Samsung มากเท่าใด แต่ในตัวเลือกที่เห็น ตัวนี้ดีที่สุดแล้ว (ที่เป็น Android) เลยได้รุ่นนี้กลับบ้านมา

การใช้งานทั่วไป

เป็นสมาร์ทโฟนเรืองธงต้นปี 2016 ของ Samsung คงจะต้องใช้งานได้ดีแน่นอน - ใช่ครับ มันไม่ได้แย่เลย สำหรับการท่องเน็ต เล่น Social เล่นเกม (ซึ่งผมไม่ค่อยจะเล่น) ฯลฯ และตัวระบบปฏิบัติการ UI ก็ไม่ได้ใช้ยากอะไร สำหรับ Digital native อย่างผม ถือว่าตอบสนองการใช้ชีวิตของผมกับสมาร์ทโฟนได้ดีมาก

ปัญหาแรกที่พบ

หลังจากที่ออกจากร้าน ทุกอย่างดูจะเกือบเรียบร้อยดี Login บัญชี Google และใช้ WIFI เพื่อ Download ทุกอย่างกลับมา ดูแล้วทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย สิ่งที่เหลืออยู่คือการซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างเคสกันกระแทก และการติดฟิล์มกันรอย ผมเดินไปยังร้านตู้โดยไม่ได้เลือกซักเท่าไหร่ เมื่อไปถึงจึงเลือกเคส ส่วนตัวผมถูกใจ Nilkin ตัว Frosted Shield อยู่แล้วจึงไม่ได้เลือกอะไรมากมาย แต่ปัญหาคือจุดนี้ - ฟิล์ม มันช่างแพงเหลือเกินสำหรับฟิล์มเต็มจอ ที่โค้งตามจอ (หากใครไม่รู้ Galaxy S7 Edge มีขอบจอทางด้านซ้ายและขวาโค้ง) ด้วย ราคาเสียไปสุทธิ 400 บาท ซึ่งถือว่ามหาแพง แถมยังมีปัญหาที่เคสอาจจะดันฟิล์มอีกด้วย (โชคดีเคสที่ผมซื้อมันไม่ดัน)

นี่คงจะเป็นปัญหาแรกที่พบ อีกทั้งพบในภายหลังว่าผู้ใช้บางคนเสียค่าฟิล์มค่าเคสไปร่วมสามพันกว่าบาทแล้ว ผมคิดว่าถ้าผมจะเปลี่ยทั้งเซ็ทอีก คงจะติดฟิล์มกระจกไม่เต็มจอ และหาเคสกันกระแทกดี ๆ ใส่ แทนที่จะมาหาฟิล์มเต็มจอที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะและราคาแพง

Touchwiz - ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนพอควร

โทรศัพท์เครื่องเก่าของผมคือ Galaxy S3 และผมค่อนข้าง "เกลียด" อี Touchwiz คือ UI ที่ Samsung ใช้ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ แต่ตอนนี้ผมโอเคกับมันมากขึ้น มัน Simple มากขึ้น แต่ยังคง Flexible สไตล์ Android และความเร็วที่ดีขึ้น แต่ความเร็วที่มากขึ้นเพราะความเร็วของโทรศัพท์มันมากพอที่จะรองรับ หรือตัว Touchwiz ที่ทำออกมาเบาขึ้น ?

อีกหนึ่งข้อดีสำหรับผมคือ Briefing โดยเจ้า Flipboard ที่จะมีข่าวที่ถูกเลือกมาให้อ่านตามหัวข้อที่เรากำหนดไว้ ยอมรับว่าตอนมันมาใหม่ ๆ ผมรำคาญมาก (ไปใช้เครื่องคนอื่นมาก่อน) แต่ใช้ไปใช้มาก็โอเคอยู่เหมือนกัน

Bloatware น้อยลงนะ แต่ก็ยังเยอะอยู่ดี

เมื่อเปิดเครื่องมาก็รู้สึกว่า - เออ - Bloatware น้อยลงนะ แต่มันก็เยอะอยู่ดี ผม Disable Apps ไป 10 Apps แล้ว พวกแอพ pre-installed ทั้งหลาย แถมยัง uninstall ไม่ได้ มีพวก Word, Excel, Powerpoint ซึ่งลบไม่ได้ และแอพ Samsung ทั้งหลาย รวมทั้งแอพจาก Google ที่ผมไม่ใช้ รู้สึกเปลืองพื้นที่มาก ๆ

ฟังเพลงผ่านหูฟัง

เหตุผลที่สำคัญในการเลือกโทรศัพท์ตอนนี้ของผมคือเรื่องเสียง ในสมัยก่อนผมใช้ DAC แยกออกมาจึงไม่ได้กังวลเท่าไหร่ แต่พอขายมันออกไปเลยค่อนข้างกังวลมากขึ้น

สำหรับเจ้า S7 Edge เสียงของมันค่อนข้างดีและมาตรฐาน ไม่มีการปรุงแต่งมาก ผมใช้กับหูฟัง hifiman re-400 และใช้ Poweramp เป็น Music player พบว่าเสียงที่ให้ออกมาค่อนข้างเรียบง่าย รายละเอียดชัดเจน เสตจค่อนข้างกว้างสำหรับหูฟัง in-ear โดยรวมถือว่าดี แต่สำหรับแรงขับผมว่าน้อยไปหน่อย re-400 ไม่ใช่หูฟังที่ขับยากอะไร แต่ในขณะที่ผมใช้โทรศัพท์เครื่องนี้กลับต้องเปิดเสียงเกือบสุด

จะ root ลง viper4android ก็ไม่ได้ ประกันหมด เซ็ง

กล้อง

สำหรับกล้องนั้นก็ถือเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน Focus ไว เก็บรายละเอียดได้ดีทั้งถ่ายในแสงมากหรือน้อย มี noise นิดหน่อยตอนถ่ายกลางคืน ถือว่าทำได้ดีสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน ที่เราจะหยิบโทรศัพท์มาแล้วถ่ายทันที อีกทั้งยังมี mode ให้เลือกหลากหลายทั้ง Pro, Food, Sport, Paronama ฯลฯ ซึ่งมีให้โหลดเพิ่มใน Samsung Store

สำหรับวิดีโอนั้นถือว่าทำได้ดีเช่นกัน สามารถถ่ายได้สูงสุด 2160@30Fps รวมๆ ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานเรือธง แต่รู้สึกว่าวิดีโอจะให้รายละเอียดของภาพที่แย่กว่านิดนึงและสีสันที่หายไปของภาพอย่างเห็นได้ชัด

กล้องหน้าผมไม่ค่อยได้ใช้นัก แต่ผมคิดว่าทำออกมาไม่ได้ดีเท่าไหร่สำหรับคนชอบเซลฟี่ จากการฟังคนอื่นและกันลองด้วยตัวเอง พบว่ามัน fake เกินไป เพราะมัน apply beauty mode อัตโนมัติด้วยมั้ง อย่างไรก็ตามเนื่องจากผมไม่ค่อยได้ใช้ จึงไม่ได้ติดใจอะไรนัก

Edge screen มีดียังไง?

จุดเด่นจุดขายอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ Samsung ขายเครื่องนี้ในราคาสูงคือ Edge screen ขอบหน้าจอทั้งสองข้างที่โค้งลงมันมีประโยชน์อันใดกันแน่ ตอนนี้ผมก็หาคำตอบได้ไม่แน่ชัด มันก็เป็น shortcut ให้เข้า app เร็วขึ้น มี notfication ขึ้นตามขอบ ทำให้พิมพ์คีย์บอร์ดผิดและมือไปโดนปุ่มในช่วงแรก ๆ และทำให้ค่าติดฟิล์มราคาสูงขึ้น พบนึกออกแค่นั้น

Battery

สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในสมาร์ทโฟนปัจจุบันอย่างหนึ่งคือแบตเตอร์นี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานตลอดวัน สำหรับ S7 Edge แบตเตอร์รี่สามารถตอบสนองพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของผมได้ตลอดวัน ผมดึงมันออกจากสายชาร์จตอนหกโมงเช้า และกลับบ้านตอนหนึ่งทุ่ม น้อยครั้งนักที่จะต้องหยิบ Powerbank ออกมาชาร์จ มีครั้งหนึ่งใช้ S7 Edge เปิดวิดีโอผ่าน Youtube โดยใช้ 4G ต่อผ่าน Dongle ขึ้นจอ Projector ประมาณ 2 ชม. แต่ดูวิดีโอแค่ 1 ชม. เหลือแบตประมาณ 50% จาก 90% ถือว่าทำได้ดีมาก

แต่ที่กลัวมากกว่าตอนนี้คือแบตมันจะระเบิดเหมือน Note 7 รึเปล่าวะ!!!

ความรู้สึกหลังใช้ Samsung Galaxy S7 Edge มา 3 อาทิตย์
Share this